ปลุกพลังความคิด เพื่อพัฒนาตัวเองอย่างยั่งยืน

หลักการและเหตุผล

ความเชื่อ / ความคิด / พฤติกรรม มันคือ กรอบความคิดที่ปลูกฝังในตัวเอง หรือเรียกว่า Mindset คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม ทัศนคติ การที่เราจะมีชุดความคิดที่เป็น พฤติกรรมได้นั้น เราจะต้องผ่านการเรียนรู้ในหลายรูปแบบตั้งแต่เด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ คนส่วนใหญ่สนใจเพียงผลลัพธ์ แพ้ชนะ ดีไม่ดี ผิดถูก ได้ไม่ได้ โง่ฉลาด แต่คนกลุ่มหนึ่งสนใจลงไปมากกว่านั้น คือสิ่งที่ได้ “เรียนรู้” จากผลลัพธ์แม้จะ “ยัง” ไม่สำเร็จ พวกเขาจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ และพยายามมันอีกครั้ง อีกครั้ง….

กรอบความคิด หรือ Mindset แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Growt Mindset กรอบความคิดแบบเติบโตได้ และ Fixed Mindset กรอบความคิดแบบยึดติด งานวิจัยของ ดร.แครอล เอส ดเว็ค (Carol S. Dweck) โดยทดลองปลูกฝังกรอบความคิดแบบเติบโตให้กับเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งและนำมาเปรียบเทียบกับเด็ก ๆ ทั่วไปพบว่าเด็กๆ ที่มี Growt Mindset มีผลสอบดีขึ้นต่อเนื่อง ในขณะเด็กอีกกลุ่มมีแนวโน้มผลคะแนนต่ำลงอย่างน่าตกใจ งานวิจัยนี้ชี้ให้ว่า Growt Mindset ช่วยปลดล็อดและพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง.

วัตถุประสงค์ :  

1. เพื่อให้ผู้อบรมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนากรอบความคิดแบบ Growth Mindset ที่นำไปสู่การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตในกน้าที่การงานและการดำเนินชีวิต
2. เพื่อให้ผู้อบรมได้มีความรู้ความเข้าใจในกรอบความคิดทั้ง 2 ประเภทและสามารถบอกได้ว่าตนเองมีกรอบความคิดแบบใดในสถานการณ์ต่างๆ
3. เพื่อพัฒนา Growth Mindset อันเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาตนเอง พัฒนางาน และพัฒนาองค์กรและ คุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
4. เพื่อให้ผู้อบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ปรับใช้ในการทำงานได้จริงอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม
5. เพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุข ความรื่นรมย์ ในการทำงาน

ระยะเวลา : 1 วัน 

กลุ่มเป้าหมาย :   พนักงานทุกระดับ / หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูง
จำนวนผู้เข้ารับการอบรม :  30 ท่าน+++

กลยุทธ์ในการฝึกอบรม :    

1. เกมส์การเรียนรู้ /กิจกรรม
2. Dialogue
3. WORK SHOP Role Play แบบเข้มข้น
4. Powerpoint
5. อภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เนื้อหาหัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้

ส่วนที่ 1 : อดีต

• การเรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง ผ่านประสบการณ์ชีวิต
• เรียนรู้การทำงานของสมอง ความเชื่อ / ความคิด / พฤติกรรม
• เข้าใจตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อชีวิต

ส่วนที่ 2 : ปัจจุบัน

• รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง อย่างไหน Growth อย่างไหน Fixed 
• เราแสดงออก Growth Mindset และ Fixed Mindset ตอนไหน
• เรียนรู้ตัวเองผ่านมุมมองจากสายตาคนอื่น

ส่วนที่ 3 : อนาคต

• การวิเคราะห์ตัวเองปลดล๊อคเพื่อไปต่อ
• กระบวนการปลอดล็อกเพื่อความสำเร็จ
• เทคนิคการสร้าง Growth Mindsetในการทำงานและการดำเนินชีวิต

ส่วนที่ 4: Growth Mindset

• การสร้างพื้นที่ในการพัฒนาศักยภาพในตนเอง
• การรู้จักตั้งเป้าหมายให้ตนเองเป็น และเรียนรู้ การทำงานกับตัวเอง
• เรียนรู้การกระตุ้นศักยภาพในตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : Define Yourself 

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมร่วมกิจกรรม
• ทำความเข้าใจในรายละเอียดและหัวใจสำคัญของตัวเอง
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

Workshop 2 : Growth Mindset หรือ Fixed Mindset

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการเรียนรู้ตัวเองเชิงลึก
• ผู้เข้าอบรมร่วมกระบวนการเพื่อสำรวจอารมณ์และความคิดตัวเองเชิงลึก
• ทำความรู้จัก Growth Mindset & Fixed Mindset ผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ
• ได้แนวทางในการทำงานกับตัวเอง

Workshop 3: Unlock The Potential 

• วิทยากรอธิบายแนวทางการปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรม
• ผู้เข้าอบรมฝึกสะท้อนตัวเองกับตัวเองเพื่อหาแนวทางปรับใช้
• ผู้เข้าอบรมได้แนวทางในการปลดล๊อคอย่างถูกต้องพร้อมนำไปใช้ได้จริง 

Workshop 4: Learning Yourself in Action-plan

• วิทยากรอธิบายการเรียนรู้เพื่อพัฒนาต่อ
• ฝึกฝนกระบวนการ 4 Process to Success Growth Mindset
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการพัฒนาตัวเองที่ดีพร้อมนำไปใช้ได้จริง

จบการสัมมนา ถาม&ตอบ

วัตถุประสงค์ : 

1. เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจและสร้างทักษะการฟังเชิงลึกอย่างมีประสิทธิภาพให้กับผู้เข้าอบรม
2. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารภายในและภายนอกองค์กรและการดำเนินชีวิต
3. เพื่อที่จะสามารถเชื่อมโยงและนำทักษะการฟังที่ถูกต้องไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
4. เพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุขและความรื่นรมย์ในการทำงานและการดำเนินชีวิต
5. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมโดยเฉพาะผู้บริหารได้เรียนรู้ทักษะการฟังอย่างถูกต้อง

ระยะเวลา : 1 วัน ( 6 ชั่วโมง) 

กลุ่มเป้าหมาย : พนักงานทุกระดับ/หัวหน้างาน/ผู้บริหารระดับสูง

จำนวนผู้เข้าอบรม : 30 ท่าน+++

กลยุทธ์การฝึกอบรม

1. Workshop Role Play
2. Powerpoint 
3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสะท้อนมุมมอง
4. Dialogue

เนื้อหาหัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้ 

ส่วนที่ 1 : Listening 

• การฟังคืออะไร? 
• แล้วทำไมต้องฟัง? 
• เราฟังกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?

ส่วนที่ 2 :  Space Listening 

• อุปสรรคที่ทำให้เกิดการฟังไม่ได้
• เรียนรู้เท่าทันอารมณ์เพื่อที่จะฟัง
• 3 เทคนิคการสร้างพื้นที่การฟังที่ดี 

ส่วนที่ 3 : เทคนิคการฟังที่ดี ด้วย Dialogue

• 6 Process to Dialogue
• ภาวะผู้นำกับการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
• ฟังแบบไหนให้ได้ใจและได้งาน

ส่วนที่ 4  : เคล็ด(ไม่)ลับ ในการฟังเชิงลึกอย่างมีประสิทธิภาพ

• การฟังเชิงลึกกับการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์เพื่อการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น.      อย่างมีความสุข
• เทคนิคการบริหารทีมงานโดยการฟัง

กิจกรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : ความเชื่อ

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมร่วมกิจกรรมค้นหา ความหมายของการฟังที่แท้จริง
• เรียนรู้และเข้าใจว่าทำไมเราถึงไม่สามารถฟังกันได้อย่างจริง ๆ
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

Workshop 2 : Save Zone Listening  

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการเรียนรู้ตัวเองเชิงลึก
• ผู้เข้าอบรมร่วมกระบวนการเพื่อรู้จักพื้นที่ที่แท้จริงในการฝึกฟัง
• ผู้เข้าอบรมได้เห็นองค์ประกอบหลักในการฟังเชิงลึกอย่างชัดเจน
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน

Workshop 3: Process to Dialogue

• วิทยากรอธิบายแนวทางการปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรมในการฟัง
• ผู้เข้าอบรมฝึกสะท้อนตัวเองกับเพื่อนร่วมงานเพื่อหาแนวทางปรับใช้
• ผู้เข้าอบรมได้แนวทางในการยกระดับความสัมพันธ์อย่างถูกต้องพร้อมนำไปใช้ได้จริง 

Workshop 4: Dialogue for Leadership 

• วิทยากรอธิบายการเรียนรู้เทคนิคการหัวสำหรับผู้นำ
• ฝึกฝนกระบวนการ Process to Success ในการฟังอย่างต่อเนื่อง
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการเพื่อนร่วมงานที่ดีพร้อมนำไปใช้ได้จริง

จบการสัมมนา ถาม&ตอบ

วัตถุประสงค์ :

1. เพื่อให้พนักงานรู้จักรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีพลังในการทำงาน
2. เพื่อเสริมสร้างความรักความผูกพันของคนในองค์กร และมีแรงบันดาลใจในการพัฒนางานของตน
3. เพื่อสร้างจิตสำนึกในการทำงานร่วมกัน และเสริมสร้างทัศนคติด้านบวกในการทำงานและการใช้ชีวิตของตนเองและเพื่อนร่วมงาน
4. เพื่อลดความขัดแย้ง ในการทำงานร่วมกัน และ สามารถสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานได้
5. เพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุข ความรื่นรมย์ ในการทำงาน

ระยะเวลา : 1 วัน 

กลุ่มเป้าหมาย :   พนักงานทุกระดับ / หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูง
จำนวนผู้เข้ารับการอบรม :  30 ท่าน+++

กลยุทธ์ในการฝึกอบรม :

1. เกมส์การเรียนรู้ /กิจกรรม
2. Dialogue
3. WORK SHOP Role Play แบบเข้มข้น
4. Powerpoint
5. อภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เนื้อหาหัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้

ส่วนที่ 1 : ค้นหาตัวเอง

• การเรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง และ รู้จักผู้อื่น
• สามารถสร้างทัศนคติเชิงบวกในตนเองได้
• การมองเห็นคุณค่าของผู้อื่นและเห็นประโยชน์ของการทำงานร่วมกัน

ส่วนที่ 2 : รู้จักตัวเอง

• Deep Yourself  รู้จักตัวเองเชิงลึก 
• ได้แนวทางนำตนเองและสามารถจัดการตนเองพัฒนาตนเองได้
• เรียนรู้ตัวเองผ่านมุมมองจากสายตาคนอื่น

ส่วนที่ 3 : ใช้ตัวเอง

• การวิเคราะห์ตัวเองแบบใคร่ครวญเพื่อไปต่อ
• เทคนิคยกระดับความสัมพันธ์ตัวเองกับเพื่อนร่วมงาน 
• การคิดบวกกับสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

ส่วนที่ 4: นำตัวเอง

• การสร้างพื้นที่ในการพัฒนาศักยภาพการทำงานในองค์กรได้อย่างมืออาชีพ
• การรู้จักตั้งเป้าหมายให้ตนเองเป็น และเรียนรู้ การทำงานเป็นทีม
• การเป็นผู้นำกับการสร้างองค์กรแห่งความสุข

กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : Define Yourself 

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมร่วมกิจกรรม
• ทำความเข้าใจในรายละเอียดและหัวใจสำคัญของตัวเอง
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

Workshop 2 : Who am I

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการเรียนรู้ตัวเองเชิงลึก
• ผู้เข้าอบรมร่วมกระบวนการเพื่อ Scan ตัวเองเชิงลึก
• รู้จักตัวเองและเพื่อร่วมงานเชิงลึก
• ได้แนวทางในการทำงานกับเพื่อนร่วมงานและตัวเอง

Workshop 3: Learning Yourself in Action-plan

• วิทยากรอธิบายแนวทางการปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรม
• ผู้เข้าอบรมฝึกสะท้อนตัวเองกับเพื่อนร่วมงานเพื่อหาแนวทางปรับใช้
• ผู้เข้าอบรมได้แนวทางในการยกระดับความสัมพันธ์อย่างถูกต้องพร้อมนำไปใช้ได้จริง

Workshop 4: Points of You

• วิทยากรอธิบายการเรียนรู้แบบ Points of You
• ฝึกฝนกระบวนการ 4 Process to Success
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการเพื่อนร่วมงานที่ดีพร้อมนำไปใช้ได้จริง

จบการสัมมนา ถาม&ตอบ

วัตถุประสงค์ : 

1. เพื่อให้พนักงานสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีพลังในการทำงาน
2. มีแรงบันดาลใจในการพัฒนางานของตน  กล้าตั้งเป้าหมายและมุ่งมั่นที่จะทำเป้าหมายให้บรรลุ
3. สร้างจิตสำนึกในการทำงานร่วมกัน และเสริมสร้างทัศนคติด้านบวกในการทำงานและการใช้ชีวิต
4. เพื่อลดความขัดแย้ง ในการทำงานร่วมกัน
5. เพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุข ความรื่นรมย์ ในการทำงาน

ระยะเวลา : 1 วัน (เพิ่ม Mindset ) / แบบ 2 วัน (เข้มข้น ปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม)

กลุ่มเป้าหมาย : พนักงานทุกระดับ / หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูง
จำนวนผู้เข้ารับการอบรม :  30 ท่าน+++

กลยุทธ์ในการฝึกอบรม :    

1. เกมส์การเรียนรู้ /กิจกรรมทางจิตวิทยาแบบเข้มข้น
2. Dialogue
3. แบบฝึกหัด และ WORK SHOP Role Play
4. Powerpoint
5. อภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เนื้อหาหัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้

ส่วนที่ 1: เข้าใจชุดความเชื่อของตัวเอง Growth Mindset 

• ความสำคัญของชุดความคิด / ชุดความเชื่อ / ชุดพฤติกรรม
• อิทธิพลทางความคิดที่มีผลต่อการใช้ชีวิตและการทำงาน
• กับดักความคิดที่ทำให้เราไม่พัฒนา

ส่วนที่ 2: กระบวนการรื้อสร้างชุดความคิดใหม่

• กระบวนการสร้างพื้นที่ใหม่ สร้างพื้นที่สมดุลทางความคิด
• กระบวนการรื้อพื้นที่เก่า ใคร่ครวญพื้นที่เพื่อปรับสมดุล
• ได้แนวทางในการนำไปปรับใช้ในการทำงานและดำเนินชีวิต

ส่วนที่ 3: Process to Success 

• วิทยากรอธิบาย 4 ขั้นตอน ในการติดตั้งชุดความคิดใหม่
• ผู้เรียนทำกระบวนการตามขั้นตอน ฝึกใช้เครื่องมือบริหารสมดุลชีวิต
• ในแนวคิดในการเชื่อมโยงในตัวเองและวิธีการติดตามผล

ส่วนที่ 4: Spark Up to Success

• วิทยากรอธิบายขั้นตอนวิธีการ Spark Up 
• ผู้เรียนร่วมทำกิจกรรม Spark Up ร่วมกัน
• ฝึกปฏิบัติตามโจทย์อย่างเข้มข้น
• ได้แนวทาง ได้พลังชีวิตใหม่ เชื่อมโยงในการดำเนินชีวิต

กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : Check In Me

• เข้าใจและรับรู้หลักการการทำงานของตนเองผ่านกระบวนการคิดที่มีผลต่อผู้อื่น (ทัศนคติในด้าน บวก และ ด้าน ลบ
• กิจกรรมการสร้างความเข้าใจในตัวเองและผู้อื่นเพื่อดึงพลังร่วมของตนเองและมุมมองความคิด / ความเชื่อ /ความศรัทธา เพื่อการสร้างพลังของการคิดบวก ของทีมอย่างมืออาชีพ
• การสร้างพื้นที่การอยู่ร่วมกันของตนเอง / เพื่อนร่วมงาน / องค์กร ได้อย่างถูกต้องเหมาะ                     
• ได้แนวทางในการนำไปใช้เชื่อมโยงในการทำงาน

Workshop 2 : 4 Process to Success

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมใคร่ครวญตามกระบวนการ 4 Process
• เรียนรู้แนวทางการทำ Pause / Expanding  / Focus / Doing
• ได้วิธีการและแนวทางไปเชื่อมโยงในการทำงานอย่างยั่งยืนและการดำเนินชีวิต

Workshop 3 : Goal Setting Plan

• เรียนรู้การตั้งเป้าหมายการทำงานที่ดีให้เป็นและตระหนักในการพัฒนาตนเองในบทบาทพนักงานที่ดีและผู้นำที่ดีในองค์กร
• สามารถเข้าใจเครื่องมือการวางแผนงานสำหรับหัวหน้างานและสามารถนำไปใช้กับตนเองและสามารถพัฒนาตนเองร่วมกับทีมงานได้อย่างกลมกลืนและเหมาะสม
• สามารถเข้าใจ ในเป้าหมาย ในการทำงาน และรู้จักวิธีการทำงานให้ได้ตามเป้าหมายขององค์กรและตนเองอย่างไร
• ผู้เข้าอบรมฝึกอบรมปฏิบัติแบบเข้มข้น
• ผู้เรียนได้แนวทางในการนำไปใช้เชื่อมโยงในการทำงาน

Workshop 4: Spark Up to Success  

• วิทยากรอธิบายแนวทางการ Spark Up
• ผู้เข้าอบรมทพกระบวนการ Spark Up ตาม ขั้นตอน
• ผู้เข้าอบรมได้แนวทางเชื่อมโยงการทำงานและการใช้ชีวิต    

วิทยากรอธิบายสรุปการเรียนรู้

• กระตุ้นให้ผู้เข้าอบรมช่วยกันนำเสนอคุณสมบัติที่ดีของหัวหน้างานเชื่อมโยง กับคุณสมบัติที่มีในตัวเอง และ เพิ่มเติมส่วนที่ขาดหายไปพร้อมแนวทางในการปฏิบัติ
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการเป็นหัวหน้าที่ดี

ถาม-ตอบ จบการสัมมนา

วัตถุประสงค์ :

1. เพื่อให้พนักงานสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีพลังใจในการทำงาน
2. เพื่อให้พนักงานรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการทำงานได้
3. สร้างจิตสำนึกในการทำงานร่วมกัน และ เสริมสร้างทัศนคติด้านบวกในการทำงานและการใช้ชีวิต
4. เพื่อลดความขัดแย้ง ในการทำงานร่วมกัน
5. เพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุข ความรื่นรมย์ ในการทำงาน

ระยะเวลา :  1 วัน 

กลุ่มเป้าหมาย :   พนักงานทุกระดับ / หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูง
จำนวนผู้เข้ารับการอบรม :  30 ท่าน++++

กลยุทธ์ในการฝึกอบรม :

1. การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเชิงจิตวิทยาพฤติกรรม
2. การ Dialogue
3. Role play
4. Powerpoint
5. แลกเปลี่ยนความคิด / Coaching

หัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และการเรียนรู้

ส่วนที่ 1:  รู้เท่าทันความขัดแย้ง

• ทำไมต้อง ขัดแย้ง ขัดแย้ง แล้วเกิดอะไร
• ทำอย่างไร ถึงไม่ขัดแย้ง 
• งานแบบไหนที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง คนแบบไหนที่ทำให้เกิดตวามขัดแย้ง

ส่วนที่ 2 : วิธีจัดการความขัดแย้ง

• พื้นที่สภาพแวดล้อมแบบไหนที่เหมาะสมกับการ ไม่ขัดแย้ง
• เทคนิคการสร้างพื้นที่ในการทำงานแบบไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
• แนวทางการมีพื้นที่การ เรียนรู้ยอมรับ เพื่อให้เกิดพื้นที่ใหม่

ส่วนที่ 3 : การเข้าใจตัวเอง เข้าใจทีมงาน เข้าใจองค์กร ด้วย Dialogue

• เรียนรู้ตัวเองเพื่อสะสางควา ขัดแย้งภายในตัวเอง
• เรียนรู้ผู้อื่น เรียนรู้ทีม ด้วยแนวทาง Dialogue เพื่อลดความขัดแย้ง
• ใช้แนวทาง Dialogue เพื่อให้เข้ากับตัวเองและบริบททีม เพื่อสร้างสันติสุขการทำงาน

ส่วนที่ 4 : Spark Up in Yourself 

• เรียนรู้วิธีลดความขัดแย้ง เพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน
• เข้าใจเครื่องมือเชิงพฤติกรรมและชุดความคิดในการบริหารความขัดแย้ง
• รู้จักของขวัญที่ดีในการลดความขัดแย้งอย่างยั่งยืน

กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : วิเคราะห์ Conflict 

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมร่วมทำกิจกรรม กลไก ของการ Conflict ที่เกิดขึ้นในตัวเอง
• ทำความเข้าใจในรายละเอียดและหัวใจสำคัญของสิ่งที่ต้องบริหารจัดการ
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงาน

Workshop 2 : เรียนรู้กระบวนการสร้างพื้นที่ เพื่อลดการ Conflict 

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมร่วมกระบวนการเพื่อสร้างทักษะที่เป็นแนวทางในการลดการ Conflict 
• ผู้เข้าอบรมได้ทักษะในการ ขจัดการ Conflict และ การสื่อสารเชิงบวก
• ทราบเทคนิคต่าง ๆ ในการลด Conflict เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

Workshop 3: การสร้าง Dialogue (สุนทรียธกในการสนทนา)

• วิทยากรอธิบายแนวทางการ Dialogue
• ผู้เข้าอบรมฝึก Dialogue  อย่างเข้มข้น
• ผู้เข้าอบรมได้แนวทางในการ Dialogue อย่างถูกต้องพร้อมนำไปใช้ได้จริง ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

Workshop 4: เธอคือ “ของขวัญ”

• วิทยากรอธิบายการเรียนรู้แนวทางการดำเนินการ
• ฝึกฝนกระบวนการโดยการผ่านกิจกรรม “ของขวัญ”
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการลดความขัดแย้งโดยสมบูรณ์ดี พร้อมนำไปใช้ได้จริง

จบการสัมมนา ถาม&ตอบ

วัตถุประสงค์ :

1. เพื่อให้พนักงานรู้จักรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีพลังในการทำงาน
2. เพื่อค้นหาศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองและมีแรงบันดาลใจในการพัฒนางานของตน  และ ตัวเองต่อไป
3. เพื่อเสริมสร้างทัศนคติด้านบวกในการทำงานและการใช้ชีวิตของตนเองและเพื่อนร่วมงาน
4. เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการรู้จักตัวเอง,นำตัวเอง,ใช้ตัวเองได้
5. เพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุข ความรื่นรมย์ ในการทำงานและการใช้ชีวิต

ระยะเวลา : 1 วัน 

กลุ่มเป้าหมาย :   พนักงานทุกระดับ / หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูง
จำนวนผู้เข้ารับการอบรม :  15-20 ท่าน+++

กลยุทธ์ในการฝึกอบรม :    

1. เกมส์การเรียนรู้ /กิจกรรม
2. Dialogue
3. WORK SHOP Role Play แบบเข้มข้น
4. Powerpoint
5. อภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เนื้อหาหัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้

ส่วนที่ 1 : ค้นหาศักยภาพ

• การเรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง  
• สามารถสร้างทัศนคติเชิงบวกในตนเองได้
• การมองเห็นคุณค่าของผู้อื่นและเห็นประโยชน์ของการทำงานร่วมกัน

ส่วนที่ 2 : รู้จักศักยภาพ

• Deep Yourself  รู้จักตัวเองเชิงลึก
• ได้แนวทางนำตนเองและสามารถจัดการตนเองพัฒนาตนเองได้
• เรียนรู้ตัวเองผ่านมุมมองจากสายตาคนอื่น

ส่วนที่ 3 : ปลดล็อคศักยภาพ

• การวิเคราะห์ตัวเองแบบใคร่ครวญเพื่อไปต่อ
• เทคนิคยกระดับความสัมพันธ์ตัวเองกับเพื่อนร่วมงาน 
• การคิดบวกกับสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

ส่วนที่ 4: ใช้ศักยภาพ

• การสร้างพื้นที่ในการพัฒนาศักยภาพการทำงานในองค์กรได้อย่างมืออาชีพ
• การรู้จักตั้งเป้าหมายให้ตนเองเป็น และเรียนรู้ การทำงานเป็นทีม
• การเป็นผู้นำกับการสร้างองค์กรแห่งความสุข

กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : The Potential Me

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมร่วมกิจกรรม The Potential Me process 
• ทำความเข้าใจในรายละเอียดและหัวใจสำคัญของตัวเอง
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

Workshop 2 : Action in Doing

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการเรียนรู้ตัวเองเชิงลึก
• ผู้เข้าอบรมร่วมกระบวนการเพื่อ รู้จักศักยภาพตัวเองเชิงลึก
• รู้จักตัวเองเชิงลึกและเตรียมทำแผนปลดล็อก
• ได้แนวทางในการทำงานกับตัวเอง

Workshop 3: Learning Yourself in Potential Me

• วิทยากรอธิบายแนวทางการปรับเปลี่ยนชุดความเชื่อ,ความคิด,พฤติกรรม 
• ผู้เข้าอบรมฝึกสะท้อนตัวเองกับเพื่อนร่วมงานเพื่อหาแนวทางปรับใช้
• ผู้เข้าอบรมได้แนวทางในการทำงานกับตัวเองอย่างถูกต้องพร้อมนำไปใช้ได้จริง 

Workshop 4: Feedback Me

• วิทยากรอธิบายการเรียนรู้แบบ 360 องศา
• ฝึกฝนกระบวนการ  Process to Success
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการปลดล็อกที่ดีสำหรับตัวเองพร้อมนำไปใช้ได้จริง

จบการสัมมนา ถาม&ตอบ

ความเชี่ยวชาญในงานนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถสร้างให้ตนเองให้มีประสิทธิภาพในงานที่ทำได้ แต่ในขณะเดียวกัน ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ที่ช่วยสร้างให้ตัวของเราเองให้โดดเด่น และ ยิ่งถ้า คน ๆ นั้น มีตำแหน่งทางการงานที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ความฉลาดทางอารมณ์ยิ่งจำเป็นต้องมีและพัฒนาฝึกฝนให้มีมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน เพื่อพร้อมที่จะก้าวหน้าต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ ความฉลาดทางอารมณ์ยังช่วยลดช่องว่างระหว่างสิ่งที่รู้และสิ่งที่ทำได้จริง (The Knowing-doing Gap) และ เป็นพื้นฐานสำคัญสู่ความสุข และ ประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี 

วัตถุประสงค์ :

1. เพื่อให้พนักงานรู้จักรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้านอารมณ์ของตนเองได้
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมรู้จักและเข้าใจสามารถจัดการอารมณ์ในแบบต่าง ๆ
3. เพื่อเสริมสร้างทัศนคติด้านบวกในการเข้าใจอารมณ์ตนเองและการใช้ชีวิตของตนเอง
4. เพื่อเข้าใจกรอบของตัวเองในการบริหารอารมณ์
5. สามารถใช้แนวทางการเรียนรู้ตนเองพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ให้เพิ่มขึ้น ในการทำงานและการใช้ชีวิต

ระยะเวลา : 1 วัน 

กลุ่มเป้าหมาย :   พนักงานทุกระดับ / หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูง
จำนวนผู้เข้ารับการอบรม :  25-30 ท่าน+++

กลยุทธ์ในการฝึกอบรม :    

1. เกมส์การเรียนรู้ /กิจกรรม
2. Dialogue
3. WORK SHOP Role Play แบบเข้มข้น
4. Powerpoint
5. อภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

เนื้อหาหัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้

ส่วนที่ 1 : เข้าใจอารมณ์

• การเรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง
• รู้จักที่จะจัดการตนเอง
• การเรียนรู้รู้จักผู้อื่น
• รู้จักที่จะจัดการผู้อื่น

ส่วนที่ 2 : ความฉลาดทางอารมณ์กับการทำงาน

• การเรียนรู้บทบาท หัวหน้างาน
• การเรียนรู้บทบาท ลูกน้อง
• การเรียนรู้บทบาท เพื่อนร่วมงาน
• การเรียนรู้บทบาท การใช้ชีวิตในสังคม

ส่วนที่ 3 : Story Emotional

• เทคนิคการจัดการอารมณ์ผ่านเรื่องเล่า
• เทคนิคการจัดการอารมณ์ด้วยการฟังเชิงลึก
• เทคนิคการจัดการอารมณ์แบบมีแผนในใจ

กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : Belief

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมร่วมกิจกรรม Belief process 
• ทำความเข้าใจในรายละเอียดและหัวใจสำคัญของอารมณ์
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

Workshop 2 : Action for EQ

• วิทยากรอธิบายแนวทางการบริหารอารมณ์ตามสถานการณ์
• ผู้เข้าอบรมร่วมกระบวนการเพื่อ รู้จักบริหารอารมณ์ที่แท้จริงของตัวเอง
• รู้จักตัวเองเชิงลึกและเตรียมทำแผนปลดล็อกอารมณ์ชิงลบออก
• ได้แนวทางในการทำงานกับตัวเอง

Workshop 3: Learning Yourself in Emotional Intelligent

• วิทยากรอธิบายแนวทางการปรับเปลี่ยนชุดความเชื่อ,ความคิด,พฤติกรรม 
• ผู้เข้าอบรมฝึกสะท้อนตัวเองกับเพื่อนร่วมงานเพื่อหาแนวทางปรับใช้
• ผู้เข้าอบรมได้แนวทางในการทำงานกับตัวเองอย่างถูกต้องพร้อมนำไปใช้ได้จริง 

Workshop 4: Improve  Me

• วิทยากรอธิบายการเรียนรู้เพื่อยกระดับการบริหารอารมณ์ที่ดีขึ้น
• ฝึกฝนกระบวนการ  Process to Success
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการปลดล็อกที่ดีสำหรับตัวเองพร้อมนำไปใช้ได้จริง

จบการสัมมนา ถาม&ตอบ

หลักสูตรการทำงานเป็นที่ ที่ สนุก , สุข , ซึ้ง , กินใจ กับกิจกรรม ออกแบบมาแบบ In-door และ Out-door อย่างมันส์

หลักคิดและเหตุผล

“การทำงานเป็นทีมที่ดีและมีคุณภาพ เกิดจากการสร้างสรรค์ของกลุ่มคนที่ดีและมีคุณภาพ ภายใต้กระบวนการที่มีประสิทธิภาพและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง”

การควบคุมกระบวนการทำงานถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญที่จะทำให้องค์กรมั่นใจว่าบริการที่จะส่งมอบให้กับลูกค้านั้นจะไม่ผิดเพี้ยนหรือต่ำไปจากมาตรฐาน แต่ การควบคุมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการแข่งขัน การอยู่รอด และการเติบโตขององค์กร

หลักสูตรนี้จึงเน้นและให้ความสำคัญกับกระบวนการในการสร้างกลุ่มคนที่จะทำหน้าที่ในการคิดหาวิธีการใหม่ ๆ ด้วยเครื่องมือใหม่ ๆ มาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานในทุก ๆ ขั้นตอนการทำงานในองค์กร เพื่อสนับสนุนการบรรลุตามเป้าหมายขององค์กรในด้านต่าง ๆ ต่อ ๆ ไป

ดังนั้น ทักษะในการบริหารจัดการงาน การรู้บทบาทและตระหนักในหน้าที่ของตนเอง การควบคุมงาน การปรับปรุงพัฒนางานที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เราสามารถปฏิบัติงานได้อย่างบรรลุเป้าหมายที่องค์กรคาดหวัง  เช่น

• ลดอัตราการเกิดซ้ำของปัญหา 
• ลดอัตราการเคลมคืนสินค้าจากลูกค้า
• ลดต้นทุนสูญเปล่า (COPQ: Cost of Poor Quality)
• มีเวลาในการนำไปคิดวางแผนที่จะปรับปรุงพัฒนางาน 
• ไม่ต้องมากังวลวุ่นวายอยู่กับปัญหารายวันซ้ำ ๆ ซาก ๆ ที่เกิดขึ้นแบบไม่รู้จบ

การเรียนรู้เรื่องนี้และฝึกฝนตนเองจนเกิดเป็นทักษะที่ดี จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง สำหรับคนทำงานในแต่ละระดับ

วัตถุประสงค์ :

1. เพื่อให้พนักงานสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีพลังในการทำงาน
2. มีแรงบันดาลใจในการพัฒนางานของตน  กล้าตั้งเป้าหมายและมุ่งมั่นที่จะทำเป้าหมายให้บรรลุ
3. สร้างจิตสำนึกในการทำงานร่วมกัน
4. เพื่อเข้าใจเป้าหมายของทีมได้อย่างถ่องแท้ เพื่อนำไปใช้ ในการปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น
5. เพื่อลดความขัดแย้ง ในการทำงานร่วมกันและสร้างระบบคุณธรรมให้เกิดขึ้น
6. เพื่อสร้างบรรยากาศสันติสุข ความรื่นรมย์ ในการทำงานเนื้อหาและพฤติกรรมเป้าหมาย

ระยะเวลา :  1 วัน ถึง 2 วัน ตามเป้าหมายขององค์กร

กลุ่มเป้าหมาย :   พนักงานทุกระดับ / หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูง
จำนวนผู้เข้ารับการอบรม :  30 ท่าน(หรือมากกว่า)

กลยุทธ์ในการฝึกอบรม :    

1. เกมส์การเรียนรู้ /กิจกรรมการเรียนรู้ แบบ Out-door & IN-door
2. การละลายพฤติกรรมที่เข้มข้น
3. WORK SHOP แบบเข้มข้น
4. Powerpoint
5. อภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

หัวข้อการบรรยายและการเรียนรู้

1. การสร้างมนุษย์สัมพันธ์ภายในทีมงานและการสร้างพลังร่วมของหมู่คณะด้วยทัศนคติเชิงบวก
2. การมองเห็นคุณค่าของผู้อื่นและเห็นประโยชน์ของการทำงานร่วมกัน
3. การคิดนอกกรอบกับวิถีการทำงานของยุคสมัยใหม่
4. การคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในการทำงานและการดำเนินชีวิต
5. การสร้างความพร้อมเพรียงกันภายในทีมงาน
6. การทำงานเป็นทีมในยุคของการเปลี่ยนแปลง
7. การเคารพกติกาและมีวินัยในการทำงาน
8. การซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น
9. การสร้างทักษะการฟังเชิงลึกเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งในองค์กร

กิจกรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : เพื่อน / ผู้บริหาร / น้อง  / องค์กร  / มิตรภาพ 

• วิทยากรสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบทีม
• ผู้เข้าอบรมร่วมกิจกรรมละลายพฤติกรรมแบบต่าง ๆ
• เรียนรู้เทคนิคการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ภายในทีมงาน
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต

Workshop 2 : Team Value   

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการเรียนรู้ Team value
• ผู้เข้าอบรมร่วมกระบวนการเพื่อรู้จักพื้นที่ที่เกิดคุณค่าร่วมกันแท้จริงในทีม
• ผู้เข้าอบรมได้เห็นองค์ประกอบหลักในการทำงานเป็นทีมเชิงลึกอย่างชัดเจน
• ได้แนวทางในการนำไปใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน

Workshop 3: TeamBuilding Adventure ( กิจกรรมออกฐาน Out-door)  

• วิทยากรอธิบายแนวทางการทำงานเป็นทีมแบบปฏิบัติภาระกิจร่วมกัน
• ผู้เข้าอบรมฝึกการทำงานเป็นทีมภาคสนามโดยผ่านโจทย์ที่ออกแบบไม่เหมือนใคร ไม่ใช่กิจกรรม Walk Rally แต่สนุก , มันส์ , ฮา , มีสาระ มากกว่า 100%
• ผู้เข้าอบรมได้แนวทางในการยกระดับความสัมพันธ์อย่างถูกต้องพร้อมนำไปใช้ได้จริง 

Workshop 4: Team Refection  

• วิทยากรอธิบายการเรียนรู้สรุปการลุยภาคสนามที่ผ่านมา
• ผู้อบรมได้กระบวนการ Process to Success ในการทำงานเป็นทีม
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการทำงานเป็นทีมกับเพื่อนร่วมงานที่ดีพร้อมนำไปใช้ได้จริง

จบการสัมมนา ถาม&ตอบ

“เวลานับว่ามีความสำคัญกับเรามากคนส่วนมากมักประสบปัญหาทำงานไม่ทันตามกำหนด
และมักให้เหตุผลว่าไม่มีเวลาหรืองานเยอะมาก”

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าพนักงานสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานว่า งานใดเป็นงานสำคัญและเร่งด่วนต้องทำก่อนทำหลัง และทราบเครื่องมือที่จะช่วยในการบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น การบริหารเวลาที่จะให้ได้ผลต้องมีเทคนิคเฉพาะ มีการประเมินการบริหารเวลาของตน การวางแผนจัดทำตารางเวลาอย่างเป็นระบบ

“หลักสูตร การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ” จึงถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้เข้าอบรม เรียนรู้ และฝึกฝนทักษะการจัดลำดับความสำคัญของงาน และช่วยให้สามารถบริหารเวลาที่ทุกคนมีอยู่เท่า ๆ กันให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดในการทำงานและชีวิตประจำวัน

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานตามความเร่งด่วนและจำเป็น
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ และฝึกฝนทักษะการวางแผนเวลาในการทำงานของตนให้สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถบริหารเวลาทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวอย่างมีระบบ

ระยะเวลา : 1 วัน
กลุ่มเป้าหมาย : ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ – ไม่จำกัดวุฒิภาวะ

(จะแยกกลุ่มแบ่งระดับ – หรือ ฝึกอบรมร่วมกันก็ได้)
จำนวนคน/ครั้ง   20-25 ท่าน +++

กลยุทธ์ที่ใช้   1.การเรียนรู้/กิจกรรม

2. Dialogue 
3. แบบฝึกหัด และ Work shop แบบเข้มข้น
4. Power point
5. อภิปรายและเปลี่ยนความคิดเห็น

เนื้อหาหัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้

• Happy @ Work สร้างสมดุลชีวิต ทำงานอย่างมีความสุขทุกวัน
• ปัญหาของการบริหารเวลาที่ไม่เหมาะสม
• การจัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของงาน
• สาเหตุของการบริหารเวลาที่ขาดประสิทธิภาพ
• สร้างความสำเร็จในชีวิตและการทำงานด้วย (สมดุลแห่งชีวิต)
• การบริหารเวลาเพื่อความสำเร็จในชีวิตและการทำงาน
• การกำหนดเป้าหมายและการบริหารตนเอง
• กระบวนการและขั้นตอนในการตั้งเป้าหมาย
• เทคนิคการตั้งเป้าหมายที่ดี

สิ่งที่คาดว่าจะได้รับหลังจากเสร็จสิ้นการอบรม

• ผู้เข้าอบรมสามารถจัดลำดับงานตามความเร่งด่วนและจำเป็น

• ผู้เข้าอบรมสามารถวางแผนเวลาในการทำงานของตนให้สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จสูงในเวลาที่กำหนด
• ผู้เข้าอบรมสามารถบริหารเวลาทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวอย่างมีระบบ

 กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : เวลา 24 ชั่วโมงกับสิ่งที่สำคัญ

o    คุณบริหารเวลา 24 ชั่วโมงของคุณอย่างไร

o    หลุมพรางของการทำงาน ที่ถูกขโมยเวลาโดยไม่รู้ตัว

o    บริหารเวลาด้วยหลัก 8 + 8 + 8

o    เทคนิคการเพิ่มเวลาให้ชีวิต

Workshop 2  : ทิศทางสำคัญกว่าความเร็ว

•   การตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย กับเวลา… ที่ท้าให้เราลงมือทำ

o  คุณตั้งเป้าหมาย แล้วได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายทุกครั้ง หรือไม่

o    เครื่องมือช่วยบริหารเวลาและจัดการอุปสรรค

o    เทคนิคการตั้งเป้าหมาย และได้ผลมหัศจรรย์

Workshop 3 : เครื่องมือในการบริหารเวลาการประยุกต์ใช้

o    ทฤษฎี พาเรโต 80: 20

o    การจัดลำดับความสำคัญของงานด้วย A4

o    บริหารเวลาด้วย เทคนิคการทำงานของ PDCA

      เทคนิคการจัดลำดับและเลือกทำสิ่งที่สำคัญ

ระดับ ความสำคัญ ด้วยแผนภูมิ 4 ช่อง

o    งานที่สำคัญ… คืองานประเภทไหน

o งานที่สำคัญ ควรวางแผน แยกประเภท 

    และจัดลำดับอย่างไร

    Workshop 4 : เทคนิคบริหารเวลา สร้างคุณค่าชีวิต

3 เทคนิคบริหารเวลา สร้างคุณค่าให้ชีวิต

1. รู้จักเป้าหมาย
2. รู้จักชีวิตตัวเอง
3. รู้จักการจัดสรรเวลาดี ๆ ให้ชีวิต

กิจกรรม “สิ่งที่จะทำต่อไปให้องค์กรหลังจากอบรม”- Action Plan

สรุป คำถามและคำตอบ– เทคนิคเพิ่มเติมตามที่ผู้เข้าอบรมต้องการเรียนรู้

วัตถุประสงค์    

1. เพื่อลดปัญหาที่มาจากความขัดแย้งในการสื่อสารระหว่างกัน  ภายในทีมงานและองค์กร
2. เพื่อการเรียนรู้ข้อบกพร่องในการสื่อสารของมนุษย์ ที่จะนำไปสู่การขัดแย้ง
3. เพื่อเพิ่มทักษะทางด้านการสื่อสารของตนเองและระหว่างบุคคลให้ดีมากขึ้นอย่างสร้างสรรค์ 

ระยะเวลา: 1 วัน
กลุ่มเป้าหมาย :ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ – ไม่จำกัดวุฒิภาวะ (จะแยกกลุ่มแบ่งระดับ – หรือ ฝึกอบรมร่วมกันก็ได้)

จำนวนคน/ครั้ง ตั้งแต่ 25-35 ท่าน>

กลยุทธ์ที่ใช้          

1.  เกมส์การเรียนรู้/กิจกรรม Role Play
2. แบบฝึกหัด และ Work shop
3. Power point
4. อภิปรายและเปลี่ยนความคิดเห็น

เนื้อหาหัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้

ส่วนที่ 1: ผู้สื่อสารที่ดี

• เรียนรู้การทำงานของสมองกับการสื่อสาร
• ความสำคัญและความจำเป็นของการสื่อสาร
• แนวทางการสื่อสารที่ดี

ส่วนที่ 2: ส่วนประกอบ 3 ด้านของการสื่อสาร

• หลุมพรางของการสื่อสาร
• พื้นที่ของการสื่อสาร
• วิธีการสื่อสารที่ได้ทั้งใจและงาน

ส่วนที่ 3: การรู้จักการสื่อสารตามแบบของคนในแบบต่าง ๆ

• การวิเคราะห์คน 4 แบบ เพื่อยกระดับการสื่อสาร
• เทคนิคการสื่อสารกับผู้บังคับบัญชา
•       เทคนิคการสื่อสารกับผู้ใต้บังคับบัญชา

กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : วิเคราะห์ความคิด 

• เรียนรู้การทำงานของสมองซีกซ้าย & ซีกขวา
• ผู้เข้าอบรมทำกิจกรรมฝึกสมองซีกซ้าย , ซีกขวา
• ฝึกการเชื่อมโยงความคิดจากสมองซีกซ้าย & ซีกขวา
• ได้แนวทางในการนำไปใช้เชื่อมโยงในการทำงาน

Workshop 2 : หลุมพรางความคิด

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมวิเคราะห์พร้อมบททดสอบทางความคิดว่ามีหลุมพรางทางความคิดไหม
• เรียนรู้แนวทางการจัดการความคิดที่เป็นกับดักและหลุมพรางให้หมดไป
• ได้วิธีการจัดการกับดักความคิดอย่างยั่งยืน

Workshop 3: การจัดระบบความคิด

• วิทยากรอธิบายแนวทางการฝึกฝนความคิด
• ผู้เข้าอบรมฝึกในความคิดแต่ละขั้น การคิดคล่องแคล่ว (Fluency)

• ผู้เข้าอบรมฝึกฝน ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility )
•       ผู้เข้าอบรมฝึกฝน ความคิดริเริ่ม (Originality )
•       ผู้เข้าอบรมฝึกฝน ความคิด ละเอียดลออ (Elaboration)

•        เรีบนรู้ทักษะ การคิดวิจารณญาณ และ การคิดแก้ปัญหา 

Workshop 4  : Process to Creative Thinking 

• เรียนรู้วิธีใช่เครื่องมือบริหารความคิด
• ผู้เข้าอบรมทำกิจกรรมกับเคื่องมือบริหารความคิด
• ผู้เรียนได้แนวทางในการนำไปใช้เชื่อมโยงในการทำงาน

วิทยากรอธิบายสรุปการเรียนรู้

• กระตุ้นให้ผู้เข้าอบรมช่วยกันนำเสนอคุณสมบัติที่ดีของหัวหน้างานเชื่อมโยง กับคุณสมบัติที่มีในตัวเอง และ เพิ่มเติมส่วนที่ขาดหายไปพร้อมแนวทางในการปฏิบัติ
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการเป็นหัวหน้าที่ดี

ถาม-ตอบ จบการสัมมนา

วัตถุประสงค์

1. มีทัศนคติและวิธีคิดที่ถูกต้องเหมาะสมในการพัฒนาความคิดริเริ่มและออกแบบ นวัตกรรมในการทำงานได้
2. สามารถเรียนรู้และพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อช่วยเชื่อมโยงในงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. เรียนรู้และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาคุณภาพงานและตนเองและองค์กรได้

ระยะเวลา :1 วัน

กลุ่มเป้าหมาย พนักงานทุกระดับ/ผู้บริหารระดับสูง

จำนวนผู้เข้าอบรม 30 ท่าน

กลยุทธ์การฝึกอบรม

1. การนำเสนอด้วย Power point
2. เกมส์ Workshop การเรียนรู้
3. Role Play แบบเข้มข้น
4. การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

หัวข้อการบรรยาย ฝึกอบรม และ การเรียนรู้

ส่วนที่ 1: ความสำคัญของสมอง

• เรียนรู้การทำงานของสมองซีกซ้ายและซีกขวา
• จะมีความคิดสร้างสรรค์จะต้องฝึกอย่างไร
• เราต้องบริหารสมองอย่างไร

ส่วนที่ 2: หลุมพรางและกับดักของความคิดสร้างสรรค์

• สมองที่ไม่สร้างสรรค์ ทำงานแบบไหน
• อะไรคือหลุมพรางของสมองที่ทำให้เราไม่สร้างสรรค์
• รู้เท่าทันความคิด เพื่อสร้างความคิดนอกกรอบสู่การสร้างสรรค์

ส่วนที่ 3: เครื่องมือและกระบวนการจัดการความคิดอย่างสร้างสรรค์

• การจัดลำดับความสำคัญและจัดการความคิด
• เทคนิคการจัดการความคิด
• การคิดเพื่อยกระดับการทำงานอย่างสร้างสรรค์

กิจกรรรมและ Workshop สำหรับการฝึกอบรม

WORKSHOP ผลที่คาดว่าจะได้รับ

Workshop 1 : วิเคราะห์ความคิด 

• เรียนรู้การทำงานของสมองซีกซ้าย & ซีกขวา
• ผู้เข้าอบรมทำกิจกรรมฝึกสมองซีกซ้าย , ซีกขวา
• ฝึกการเชื่อมโยงความคิดจากสมองซีกซ้าย & ซีกขวา
• ได้แนวทางในการนำไปใช้เชื่อมโยงในการทำงาน

Workshop 2 : หลุมพรางความคิด

• วิทยากรอธิบายแนวทางการดำเนินการ
• ผู้เข้าอบรมวิเคราะห์พร้อมบททดสอบทางความคิดว่ามีหลุมพรางทางความคิดไหม
• เรียนรู้แนวทางการจัดการความคิดที่เป็นกับดักและหลุมพรางให้หมดไป
• ได้วิธีการจัดการกับดักความคิดอย่างยั่งยืน

Workshop 3: การจัดระบบความคิด

• วิทยากรอธิบายแนวทางการฝึกฝนความคิด
• ผู้เข้าอบรมฝึกในความคิดแต่ละขั้น การคิดคล่องแคล่ว (Fluency)
• ผู้เข้าอบรมฝึกฝน ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility )
• ผู้เข้าอบรมฝึกฝน ความคิดริเริ่ม (Originality )
• ผู้เข้าอบรมฝึกฝน ความคิด ละเอียดลออ (Elaboration)
• เรีบนรู้ทักษะ การคิดวิจารณญาณ และ การคิดแก้ปัญหา 

Workshop 4  : Process to Creative Thinking 

• เรียนรู้วิธีใช่เครื่องมือบริหารความคิด
• ผู้เข้าอบรมทำกิจกรรมกับเคื่องมือบริหารความคิด
• ผู้เรียนได้แนวทางในการนำไปใช้เชื่อมโยงในการทำงาน

วิทยากรอธิบายสรุปการเรียนรู้

• กระตุ้นให้ผู้เข้าอบรมช่วยกันนำเสนอคุณสมบัติที่ดีของหัวหน้างานเชื่อมโยง กับคุณสมบัติที่มีในตัวเอง และ เพิ่มเติมส่วนที่ขาดหายไปพร้อมแนวทางในการปฏิบัติ
• ผู้เรียนได้แนวทางเพิ่มเติมในการเป็นหัวหน้าที่ดี

ถาม-ตอบ จบการสัมมนา